Pages

Saturday, July 18, 2020

2 บทบาทข้ามยุคท้าทายฝีมือ "ฟิล์ม ธนภัทร" ความฮอตขึ้นลงได้ ขอเป็นนักแสดงที่ดีให้จดจำ - ไทยรัฐ

santalimadua.blogspot.com

ดังเปรี้ยงเป็นสามีแห่งชาติ “บอสวศิน” ในละคร “เมีย 2018” จนได้สวมบทเป็นตัวละครหลากหลาย มาถึงบทบาท ทวด-เหลน “เพียร” และ “พีท” 2 คาแรกเตอร์สุดท้าทายฝีมือพระเอกหนุ่ม “ฟิล์ม–ธนภัทร กาวิละ” ในละครโรแมนติกคอมเมดี้ย้อนยุคที่กำลังเข้มข้นเรื่อง “รักแลกภพ” ทางช่องวัน 31 เจ้าตัวเผยถึงการถ่ายทำที่ถือว่าหนักที่สุดในชีวิตนักแสดงว่า

“ท้าทายที่สุดตั้งแต่ตัวเองเคยเล่นละครมา เป็นเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้อย่างการย้อนเวลา ข้ามภพ แล้วเราต้องเล่นเป็น 2 คาแรกเตอร์ในเวลาเดียวกัน ต้องคุยกันเอง เล่นกับสแตนด์อิน ต้องมีซีจี ล็อกเฟรม เทคนิคการถ่ายทำ และการทำการบ้านกับตัวละคร ขนาดบทตัวเดียวบางทีบท 3 หน้าที่ต้องคุยกับตัวเองก็ยากแล้ว พอเล่นเสร็จก็เปลี่ยนผมเปลี่ยนชุด เป็นอีกคน เป็นอย่างนั้นทั้งวัน สิ่งที่ 2 ตัวละครหลักๆต่างกันชัดเจนคือ พิริยะ หรือพีท ยุคปัจจุบันเป็นคนแอ็กทีฟตลอดเวลา ติดโซเชียล เอนเนอร์จี้สูง พอตัดภาพมาที่เพียร เป็นคนสุมขมนุ่มลึก แล้วต้องเล่นให้ความสุขุมนั้นข้างในมีอะไรตลอดเวลาไม่ต่างกับพิริยะ ต่างแค่การแสดงออก วิธีคิด ความรู้สึกก็มีมากเหมือนกัน ซึ่งตัวจริงผมอยู่ตรงกลางระหว่างสองตัวนั้น”

เข้าฉากกับตัวเองยากมั้ย? “แรกๆก็ยากแต่น้องสแตนด์อินส่งอารมณ์ได้ดีด้วย และต้องเวิร์กช็อปซ้ำแล้วซ้ำอีก ส่วนการสลับตัวละครก็ต้องคอยสลับเสียงสร้างคาแรกเตอร์ที่ต่างกัน เพียร เสียงนุ่มต่ำ กับพิริยะ ที่แอ็กทีฟ เสียงสูง อย่างการร้องไห้กับพีท และเพียร ก็ไม่เหมือนกัน ยากครับ เราไม่เคยเล่น 2 คาแรกเตอร์ มันท้าทายมาก ยอมรับว่าแรกๆเครียด ยิ่งคาแรกเตอร์ต่างกันมันยิ่งต้อง “ฉีก” และ “เฉียบ” ถ่ายคิวแรกๆยอมรับว่าเหนื่อยมาก เราต้องแบกหลักทั้งเรื่องและทำการบ้านหนักกว่าคนอื่น ต้องขอบคุณพี่ปุ๊ย-ผอูน ผู้กำกับ ไม่ได้พี่ปุ๊ยผมคงแย่เหมือนกัน เป็นผู้กำกับที่สอนตลอดเวลาตั้งแต่คิวแรกถึงคิวสุดท้าย อธิบายให้เราเห็นภาพ เรียกอารมณ์ออกมาถือว่าความสำเร็จของตัวละครไม่ได้มาจากผมทั้งหมด ครึ่งหนึ่งคือพี่ปุ๊ย”

เล่นกับวิว–วรรณรทเป็นไงบ้าง? “เราเองได้เห็นฝีมือเค้ามาเยอะตั้งแต่ยังเด็ก แต่ไม่เคยเล่นประกบคู่กัน พี่วิวส่งอารมณ์ดีมาก คลิกกันเร็ว ทำงานด้วยแล้วดีจังเลย แฮปปี้ บทต้องมีอารมณ์ รักกัน รักมาก จากลา เล่นกับเค้าทำให้รู้สึกว่าเค้ารักเราเหลือเกิน เล่นเต็มทุกฉากส่งอารมณ์ให้ดีมากจริงๆ”

บทบาทที่ได้รับในแต่ละเรื่องค่อยๆอัปเลเวลความยากขึ้นมา? “ใช่ครับ มันไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ ต่อให้บทต่อไปไม่ใช่แฝดแต่ผมรู้สึกว่างานทุกงานมีความยากเหมือนกันหมดแค่ยากแบบไหน ถ้ามองว่างานทุกงานมันท้าทาย เราจะให้เวลามันเยอะ การแสดงละครเป็นเหมือนเวทมนตร์ที่มันเสกอะไรก็ได้ มันละเอียดจริงๆ ได้ลงลึกไปกับความรู้สึกมากขึ้น”

เรามองตัวเองจากเรื่องแรกดูพัฒนามาเยอะมั้ย? “มันก็เติบโตขึ้นตามประสบการณ์ มันก็มีบางช่วงนะที่คนเริ่มคาดหวังกับเรามากขึ้น แล้วบางทีเราทำงานหนักมากขึ้น มีเวลาทำการบ้านงานละครน้อยลง ความละเอียดน้อยลง พักผ่อนน้อย มันไม่ใช่ว่าโตขึ้นแล้วจะผิดพลาดไม่ได้ มันก็มีที่ยังผิดพลาดอยู่ เพียงแต่เราจะมองเห็นความผิดพลาดตรงนั้นรึเปล่าและพัฒนาตัวเองตลอดเวลา”

เราดังเปรี้ยงขึ้นแท่นสามีแห่งชาติ จากเมีย 2018 แล้ว ยากไหมที่ต้องคงมาตรฐานหรือความรักของแฟนๆให้ยังอยู่? “ยังไงมันก็ยาก ผมมองว่าชื่อเสียงเป็นเหมือนกราฟ มันขึ้นแล้วก็มีลง ไม่มีทางขึ้นได้ตลอดไป แต่ผมมองว่าฝีมือมันอยู่กับเราได้ตลอดไป ถ้าเรามองว่าตัวเองดังแล้ว แล้วไม่รู้จักพัฒนาความสามารถตัวเองวันหนึ่งมันก็ร่วง เพราะมันก็มีเด็กใหม่ๆเข้ามา ทุกวันนี้เราก็ไม่ได้อยากให้ทุกคนจำเราในฐานะบอสวศิน อยากให้คนจำเราในฐานะฟิล์ม-ธนภัทร ที่เล่นบทบาทนั่นนี่ได้ ไม่ได้มองว่าตรงนั้นไม่ดี ตรงนั้นเป็นจุดแจ้งเกิดของเรา แต่เราอยากให้ทุกคนจำเราที่เราเป็นเรา ว่าเราคือนักแสดงที่มีฝีมือเล่นได้ทุกบท”

มันกดดันมั้ยในวันที่ผลงานบางเรื่องอาจจะไม่เปรี้ยงปร้างเท่าตอนนั้น? “มันก็ทำให้เรามองว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมละครเรื่องนี้คนถึงไม่ชอบ มันก็มีท้อนะ ผมว่าไม่มีคนไหนที่ไม่เคยท้อ เพียงแต่ว่าเค้ายอมแพ้รึเปล่า เราท้อได้ อ่อนแอได้ แต่เราจะลุกขึ้นสู้ต่อรึเปล่า”

เป็นขวัญใจสาวๆแต่ไม่มีเรื่องสาวๆข้างกายเลย? “ทุกวันนี้ถ่ายละครแน่น ว่างก็ดูแลตัวเอง เข้าฟิตเนส หมดเวลาแล้ว ผู้หญิงอาจจะมาวันไหนก็ได้ แต่หุ่นดีๆต้องทำเอง (ยิ้ม) มันใช้เวลานะครับในการปั้นหุ่น เราอยากมีหุ่นที่ดี มองกระจกแล้วมันมีความสุข แล้วมันก็ส่งเสริมตัวเราเองทั้งเรื่องภาพลักษณ์ เพิ่มโอกาสในการทำงาน เราก็เริ่มอายุเยอะขึ้น มีเด็กใหม่ๆเยอะขึ้น”

แต่ก็ยังไม่โชว์หุ่นเซียะ? “ถ้าไม่ดีไม่โชว์ดีกว่า (ยิ้ม) นานแล้วที่มีโชว์ในละคร ตอนนี้ตั้งใจแล้วว่าต้องมีหุ่นที่ดีให้ได้เพื่อให้ตัวเองพร้อม แล้วเราก็มีความสุขเองด้วย ส่วนเรื่องสาวๆก็คนที่เข้ามาคุยมีบ้าง แต่ก็ยังไม่พร้อมขนาดนั้นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับใครจนไปถึงเป็นแฟน ถ้าคบกันช่วงแรกๆ อะไรก็ดีไปหมด พอวันนึงเราทำงานหนักไม่มีเวลา ก็ดูว่าหมดโปรโมชัน ผมเป็นคนให้งานกับครอบครัวมาอันดับหนึ่ง เรายังรู้สึกว่าไม่พร้อมขนาดนั้น ถ้าเราอยากมีแฟนเราก็อยากมีเวลาให้เค้า และรู้สึกว่าช่วงชีวิตตอนนี้มันดีที่สุดแล้ว”.

อ่านเพิ่มเติม...

Let's block ads! (Why?)



"เป็น" - Google News
July 19, 2020 at 06:30AM
https://ift.tt/30olo7s

2 บทบาทข้ามยุคท้าทายฝีมือ "ฟิล์ม ธนภัทร" ความฮอตขึ้นลงได้ ขอเป็นนักแสดงที่ดีให้จดจำ - ไทยรัฐ
"เป็น" - Google News
https://ift.tt/3eIAhHj
Home To Blog

No comments:

Post a Comment