เห็นการแสดงความคิดเห็นของคนที่อ้างตัวว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่เป็นคนรุ่นใหม่ หรือเป็นศิลปินสร้างสรรค์หัวก้าวหน้าฝ่ายประชาธิปไตย หลายคนใช้ “ข้อมูลเท็จ” ใส่ร้ายกล่าวหาฝ่ายตรงข้าม โดยไม่รู้สึกรู้สา
จะด้วยความไม่รู้ คือ โง่
หรือความ “ไร้ยางอาย” ก็ไม่อาจทราบได้
1. ข้อเท็จจริงเป็นสิ่งสำคัญ
ในการแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันในสังคมอารยะ มักประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ข้อเท็จจริง และความคิดเห็น
“ความคิดเห็น” อาจมีความรู้สึก มีค่านิยม มีความชอบ-ไม่ชอบน่ารัก-ไม่น่ารัก มีมุมมองแตกต่างกันได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด คนในสังคมประชาธิปไตยควรใจกว้าง ให้เพื่อนร่วมสังคมได้มีรสนิยมแตกต่างกันได้
แต่ “ข้อเท็จจริง” เป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ ก็ต้องยอมรับร่วมกันว่า ใคร อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
การบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือชั่วช้าเลวทรามถึงขนาดให้ข้อมูลเท็จ เพื่อเป็นพื้นฐานให้เกิดความเกลียดชัง ทำลายผู้อื่น เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ และต่อให้เป็นคนรุ่นใหม่ ภาพลักษณ์ดี ปากพูดคำว่าประชาธิปไตยวันละสามเวลาหลังอาหาร มันก็ไม่ได้ช่วยให้เป็นความจริงขึ้นมาได้
เท็จ ก็คือเท็จ
ถ้ารู้ว่าเท็จ แล้วยังนำมาใช้ให้ร้ายผุ้อื่น นั่นคือความชั่วร้ายอย่างไม่ควรให้อภัย
2. ประเด็นร้อนๆ เกี่ยวกับ “ฌอน บูรณะหิรัญ” ที่กำลังถกเถียงกันอยู่ ก็มีเรื่อง “ความจริง” และ “ความรู้สึกส่วนตัว” ที่น่าคิดต่อเหมือนกัน
ควมจริงว่า เงินบริจาคไปไหน ถูกต้องหรือไม่?
ความรู้สึกส่วนตัวของ “ฌอน” ที่มีต่อบิ๊กป้อม จริงใจหรือไม่?
ความจริงว่า สิ่งที่ฌอนพูดนั้น มันมีแง่คิดน่าสนใจอย่างไร?
ผู้ใช้เฟซบุ๊ค “Zhantatch Panitchanon” แสดงความคิดเห็นประเด็นน่าสนใจ ระบุว่า
“...ดูรายการคุยรอบทิศล่าสุดที่ สุทธิชัย หยุ่น, อ.วีระ ธีรภัทร และวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ คุยกัน มีเรื่องหนึ่งที่เอามาคุยคือดราม่า ฌอน ไลฟ์โค้ช vs จอน วิญญาณ
คุณสุทธิชัยพูดว่า “ผมก็แปลกใจเพราะว่าพอกลายเป็นประเด็นเนี่ยพูดเรื่องการเมือง ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นพูดนะ เป็นคุณวีระพูด คุณวิสุทธิ์พูด ว่า “บิ๊กป้อมท่านก็ความจริงเป็นผู้ใหญ่ใจดีนะ” ก็ไม่มีใครมาถล่มคุณมากมายใช่มะ...เอ๊ะทำไมเวลาคุณฌอนพูดแล้ว ทำไมถึงเจอ”
อันนี้คือแม่งโคตรคำถามทองสัสๆ นาทีนี้
ผมขอตอบคุณสุทธิชัยเลยว่า เพราะอะไร
เพราะคุณวีระพูด คุณวิสุทธิ์พูดไปมันก็ไม่มีคนรุ่นใหม่ฟัง ไม่กระทบอะไรกับฝ่ายที่คุมเสียง คุมความเห็นของมวลชนกลุ่ม “คนรุ่นใหม่” ซึ่งก็เช่นที่ออกหน้าเปิดชกชัดเจนแล้วว่า คือพวกสื่ออย่างไอ้จอน วิญญาณ
โดยที่เพราะว่า ฌอน ไลฟ์โค้ช มันมีคนตามเยอะ และมวลชนหรือ market ของฌอนมันคาบเกี่ยวกับฝ่ายไอ้จอน วิญญาณ และ messageของฌอนนั้น แม้ว่าใจความหลักของเขาคือว่า “อย่าไปเชื่อสื่อมาก/สื่อสามารถปั่นหรือทำลายภาพลักษณ์คนคนหนึ่ง” ซึ่งมันก็เป็น message ที่ใช้ได้กับทุกฝ่ายอยู่แล้ว แต่การที่ฌอนใช้บิ๊กป้อมเป็น subject ที่จะพูดถึงประเด็นนี้ มันเลยไปขัดกับสิ่งที่ฝ่ายจอน วิญญาณ นำเสนอมาโดยตลอด มันไปขัดกับ message ของ จอน วิญญาณ และเครือข่ายสื่อฝ่ายเดียวกันของมัน
message ของฌอนมันทำให้คน “คิดเอง” มากกว่าจะ “เชื่อตาม” สิ่งที่พวกคนอย่างจอน วิญญาณสำรอกกรอกหูทุกๆ วัน มันเลยโคตรที่จะ threaten ไอ้จอน วิญญาณ แ...ม่งเลยออกมา react แบบสถุนๆ พูดฟักยูบ้างอะไรบ้าง
555555555
เพราะ message ของฝ่ายมันที่ฉายภาพอย่างไม่หยุดหย่อนว่าบิ๊กป้อม,บิ๊กตู่, รัฐบาล, กองทัพ, อาจรวมไปถึงสถาบันฯ คือ “ตัวร้าย”, “ไม่มีอะไรดี” จะต้อง “dehumanized” พวกนี้
หรือ กระทั่งพวกที่เชียร์/สนับสนุนพวกนี้ ก็คือพวกเ...หี้ยและค..วาย message นี้มันแตะต้องไม่ได้ เพราะเมื่อแตะต้องแล้วมโนภาพที่สร้างมาเหล่านี้ก็จะพังทลายลง
ดังนั้น หากคนที่สามารถ influence คนได้แบบพวกมัน แล้วไปแตะสิ่งนี้เข้าทีหนึ่ง มันก็ต้องออกมาดิ้นแบบนั้นแหละครับคุณสุทธิชัย”
3. กรณีนายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค กล่าวหาทำนองว่า คดีทำเนียบรัฐบาลและคดีสนามบินของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็น Sound of Silence แต่คดีนปช.บุกบ้านสี่เสาฯกลับจำคุก 2 ปี 8 เดือน
นายดวงฤทธิ์ บุนนาค ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม care แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ค Duangrit Bunnag ระบุว่า “ปิดสนามบิน เดือดร้อนทั้งประเทศ คุก 8 เดือน ล้อมบ้านหลังเดียว คุก 2 ปี #สวัสดีประเทศไทย”
ข้อความข้างต้น เป็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่ได้อยู่บนฐานข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง
นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ อดีตนักโทษชาย ที่รับโทษในคดียึดทำเนียบรัฐบาลมาแล้ว ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ระบุว่า
“ชี้แจงกรณีนายสุชาติ สวัสดิ์ศรี กล่าวหาว่าคดีทำเนียบรัฐบาลและคดีสนามบิน ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย-พธม. เป็น Sound of Silence
ขอชี้แจงว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย-พธม. ถูกศาลฏีกาพิพากษาลงโทษ 5 แกนนำ 1 ผู้ประสานงานให้จำคุกคนละ 8 เดือน เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 ในคดียึดทำเนียบรัฐบาล 193 วัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกคนละ 2 ปีกว่า
ศาลอุทธรณ์ ลดโทษเหลือ 8 เดือน
ศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกคนละ 8 เดือน
และขณะนี้ ทางทำเนียบรัฐบาลได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหายอีกกว่า 10 ล้านบาท ต่อแกนนำและผู้ประสานงาน คดียังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีที่ศาลแพ่ง
ส่วนคดีสนามบิน ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาผู้ก่อการร้าย ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์
จำเลยในคดีนี้มีกว่า 90 คน
ส่วนคดีแพ่ง 2 คดี มีคดีการท่าฯ และหอบังคับการบิน คดีสิ้นสุดที่ศาลฎีกาไปแล้ว ให้ชดใช้ค่าเสียหายรวมดอกเบี้ยเกือบพันล้านบาทกำลังอยู่ระหว่างกรมบังคับคดีตามยึดทรัพย์ทั้งแกนนำ พธม.ทั้งรุ่น 1 และรุ่น 2 อยู่
และที่มวลชนบุก NBT ก็ถูกศาลตัดสินลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว ยังคงเหลืออีกสองสามคนที่กำลังถูกดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้ และก็ยังมีบางคนที่ยังติดคุกอยู่ในเรือนจำกลางกรุงเทพมหานคร
ส่วนตัวผมเองและพรรคพวกนั้น ก็อยู่ในระหว่างการถูกดำเนินคดีข้อหาสนับสนุนกบฏ ในคดีการชุมนุม คปท.แต่ถูกฟ้องร่วมในคดีของกปปส.ที่โดนข้อหากบฏ ในระหว่างการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล มวลชนพธม.ถูกลอบยิงด้วย M-79 เกือบทุกคืน ทำให้มีคนตายไป 10 คนและบาดเจ็บพันกว่าคน พิการ 4 คน นอกจากนี้ มวลชน พธม.ยังถูกตำรวจล้อมปราบที่บริเวณหน้ารัฐสภาตั้งแต่ย่ำรุ่งจนถึงหัวค่ำในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 อย่างโหดเหี้ยม โดยผู้สั่งการของฝ่ายรัฐบาลที่ถูก ป.ป.ช.ฟ้องร้องถูกศาลยกฟ้องทั้ง 5 คน
ในสมัยนั้น คุณสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม.ยังถูกลอบยิงตอนเช้ามืด กลางกรุงเทพมหานคร ด้วยกระสุนสองร้อยกว่านัดพร้อมกระสุน M-79 ทำให้บาดเจ็บสาหัสร่วมกับคนขับรถ จนบัดนี้ยังจับตัวคนร้ายที่ลอบยิงไม่ได้แม้แต่คนเดียว
นี่ยังไม่นับเหตุการณ์การชุมนุมของ คปท.และ กปปส. ที่ถูกลอบยิงทั้งกระสุนปืนและ M-79 จนมีผู้บาดเจ็บล้มตายเช่นเดียวกับการชุมนุมของ พธม. ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
จึงรายงานมาเพื่อทราบเพื่อความเข้าใจในข้อเท็จจริงของประชาชนทุกหมู่เหล่า
พิภพ ธงไชย
อดีตนักโทษชาย
คดีการเมืองยึดทำเนียบรัฐบาล 26/6/63”
จะเห็นว่า ความจริง ก็คือความจริง
คงมีแต่คนโง่ หรือคนเลวเท่านั้น ที่ไม่ยอมรับความจริง
สารส้ม
"เป็น" - Google News
June 30, 2020 at 02:00AM
https://ift.tt/2CKLeKv
คอลัมน์การเมือง - ข้อเท็จจริงเป็นสิ่งสำคัญ - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"เป็น" - Google News
https://ift.tt/3eIAhHj
Home To Blog
No comments:
Post a Comment