จากการนำเสนอข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศ ที่เปิดเผยว่า คดีที่ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ "บอส อยู่วิทยา" ขับรถชนดาบตำรวจ วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตโดยประมาท เหตุเกิดเมื่อปี 2555 และล่าสุดอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ มีการสั่งยุติคดีไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นข่าวสำคัญที่ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจทันที โดยเฉพาะเมื่อมีการนำเสนอหลักฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพวงจรปิด, สำนวนคำสั่งไม่ฟ้องคดี ไปจนถึงผลการตรวจเลือดของ บอส อยู่วิทยา ที่ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากล หลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องขอให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ทันที เพื่อรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรม
ความเคลื่อนไหวของข่าวนี้ ยังถูกยกระดับขึ้นเป็นข่าวสำคัญระดับโลก ถูกนำไปบันทึกลงในสารานุกรมระดับโลกอย่าง "วิกิพีเดีย" ใช้ชื่อหัวข้อว่า "Death of Wichian Klanprasert" หรือ "การตายของ วิเชียร กลั่นประเสริฐ" และยังถูกตั้งคำค้นหาอยู่ในหมวด "Corruption in Thailand" อีกด้วย โดยมีการคาดการณ์ว่า เหตุที่ถูกจัดเข้าไปอยู่ในหัวข้อนี้ เพราะเป็นการพลิกคดีที่ไม่เคยเกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรมใดในโลกมาก่อน อีกทั้งยังเกี่ยวพันไปถึงธุรกิจของครอบครัวของผู้ถูกกล่าวหา
ส่วนฝ่ายภาครัฐที่ได้รับการเรียกร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีนี้ ก็เริ่มออกมาเคลื่อนไหวกันครบทุกหน่วยงาน แม้แต่ นายกรัฐมนตรี ที่มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่จะเริ่มตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้
ส่วนการชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ที่เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการชี้แจงไปเข้าพบคณะกรรมการฯ เพื่อตอบข้อซักถามที่สังคมตั้งข้อสงสัย เช่น กรณีผลตรวจเลือดของนายวรยุทธ ที่อดีตผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ ยืนยันว่าได้ทำรายงานผลการตรวจเข้าไปในสำนวนการสอบสวนแล้ว ส่วนผลการตรวจสอบในประเด็นอื่น ๆ ที่ยังไม่มีข้อสรุป ก็มีการชี้แจงว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการในองค์กรของตนเอง พร้อมขอเลื่อนการชี้แจงในประเด็นที่ยังไม่มีข้อสรุปนี้ไปสัปดาห์หน้า เพื่อรอความชัดเจน ก่อนตอบทุกข้อสงสัยต่อสังคม
ส่วนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วานนี้มีการเรียกประชุมเป็นวันแรก ใช้เวลาหารืออยู่นานประมาณกว่า 1 ชั่วโมงเศษ ก่อนเปิดแถลงข่าวชี้แจงประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัย โดยอธิบายว่าประเด็นที่คณะกรรมการชุดนี้จะตรวจสอบมี 3 ประเด็น คือ ประเด็นการสอบสวนและความเห็นในชั้นพนักงานสอบสวน, การสอบสวนเพิ่มเติมตามความเห็นของอัยการ และตรวจสอบการใช้ดุลยพินิจไม่แย้งสำนวน ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยการตรวจสอบดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับผลการตรวจสอบของอัยการสูงสุด และหากพบว่ามีการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ ก็จะพิจารณาความผิดทางวินัยและอาญากับผู้เกี่ยวข้อง แต่จะไม่มีผลต่อคดีความ เพราะถือว่าสิ้นสุดคดีไปแล้วตามกฎหมาย
ส่วนการตรวจสอบประเด็นการสั่งไม่ฟ้องของสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ประชุมต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ใน 3 ประเด็น คือ การสั่งไม่ฟ้องคดีของ บอส อยู่วิทยา เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่, เป็นไปตามระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุดหรือไม่ และมีเหตุผลอย่างไรในการสั่งไม่ฟ้องคดี แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ข้อยุติ
แต่จากการประเมินความคืบหน้าในภาพรวมทั้งหมด มีความเป็นไปได้ว่า ในวันนี้คณะกรรมการฯ อาจจะเรียกสรุปผลการพิจารณาได้ แต่อาจยังไม่สามารถแถลงชี้แจงบทสรุปต่อสังคมได้ทันที
และนอกจากการติดตามหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว ผลกระทบอีกด้านที่ส่งไปถึงครอบครัวอยู่วิทยา ทำให้คนในครอบครัวต้องส่งจดหมายเปิดผนึกจากตัวแทนบริษัท ผ่านมายังสื่อมวลชน เรียกร้องขอให้ "บอส อยู่วิทยา" ออกมาแสดงความกระจ่างต่อสังคม และดำเนินการให้ถูกต้อง โดยยืนยันว่าทุกคนในครอบครัวต่างรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าให้ความเคารพต่อกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมที่เท่าเทียมกัน
"เป็น" - Google News
July 30, 2020 at 09:00AM
https://ift.tt/2Xd7Qee
รายงานพิเศษ : คดี บอส อยู่วิทยา กลายเป็นคดีระดับโลก - ช่อง 7
"เป็น" - Google News
https://ift.tt/3eIAhHj
Home To Blog
No comments:
Post a Comment